แบร์นาร์โด้ ซิลวา มิดฟิลด์ตัวเก่ง จาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงเต็มร้อยในเกมที่ต้องดวลกับ บาเซิ่ล อีกครั้งในวันพุธนี้ เพราะทุกนัดในศึกแชมเปี้ยนส์ ลีก ไม่เคยง่าย

แบร์นาร์โด้ ซิลวา แนวรุกชาวโปรตุกีส ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนยันว่าต้นสังกัดของตนจะลงเล่นเต็มร้อยเปอร์เซ็น เพื่อเก็บชัยชนะให้ได้ สำหรับเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่มีคิวเปิดรัง เอติฮัด สเตเดี้ยม ดวลกับ บาเซิ่ล หลังจากเลกแรก “เรือใบสีฟ้า” บุกไปยำถึงถิ่น 4-0 แล้วก็ตาม

ชัยชนะด้วยผลการแข่งขันดังกล่าวทำให้ แมน ซิตี้ กุมความได้เปรียบสุดๆ และดูเหมือนจะไม่มีปัญหาในการเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ แต่อย่างไรก็ตาม ซิลวา มองว่า ทีมจะต้องไม่ประมาทและควรตั้งเป้าหมายที่คว้าชัยไว้ก่อน

“ในความคิดของผมแล้ว แชมเปี้ยนส์ ลีก มันไม่มีเกมไหนเลยที่เป็นงานง่าย แม้ว่าคุณจะบุกไปเก็บชัยไปก่อนด้วยสกอร์ 4-0 แล้วก็ตาม ทีมคุณได้เปรียบมหาศาล โดยเฉพาะการที่ได้กลับมาลงเล่นในบ้านต่อหน้าแฟนบอลตัวเองอีกครั้ง แต่เราก็ยังมีความตั้งใจที่จะคว้าชัยให้ได้อีกครั้ง” แข้งวัย 23 ปี กล่าว

ริยาด มาห์เรซ ปีกตัวเก่งของเลสเตอร์ ซิตี้ เผยข้อความในใจผ่านแอคเคาท์โซเชียลส่วนตัว บอกเป็นนัยๆ ว่าตนเองอยากพักและเลิกเล่นฟุตบอล ด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น ทำให้แฟนบอลจำนวนมากเกิดความงุนงงและไม่เข้าใจสิ่งที่ดาวเตะจาก “จิ้งจอกสยาม” ต้องการจะบอก

เกิดเรื่องสุดช็อคแห่งวงการฟุตบอลและแฟนบอลทั่วโลก หลัง ริยาด มาห์เรซ ยอดแนวรุกสัญชาติแอลจีเรีย ของ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมดังแห่งเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ออกมาประกาศผ่านสื่อโซเชียลส่วนตัว ทั้งบนเฟซบุ้คและทวิตเตอร์ โดยมีเนื้อหาใจความว่า “หลังจากที่ได้ทำการปรึกษากับทีมแพทย์หลายคน ผมจึงตัดสินใจแล้วว่าอยากจะขอออกห่างจากโลกฟุตบอล เวลาของผมกับการเป็นนักฟุตบอลอาชีพมันได้เดินทางจนถึงจุดสูงสุดแล้ว ผมมีเพียงคำพูดไม่กี่คำที่อยากจะบอกทุกคนว่า ขอบคุณทุกๆ คนที่ค่อยให้ความเมตตาและสนับสนุนตัวผมมาโดยตลอด เพราะพวกเขาทำให้ผมรู้ทันทีว่าที่นี่คือเมืองที่สุดแสนวิเศษ พวกคุณจะอยู่ในใจของผมตลอดไป”

หลังข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ขึ้นมา ทำให้แฟนบอลที่ติดตามเขาหลายคนแปลกประหลาดใจ เพราะเพียงราว 5 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ แอคเคาท์ บนทวิตเตอร์ มาร์เรซ ยังมีการรีทวิตคลิปจังหวะยิงประตูในเกมที่ต้นสังกัดเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือน บอร์นมัธ ก่อนที่จะเสมอกันไป 1-1 ช่วงวันเสาร์ที่ 3 มีนาคม ผ่านมา จากแอคเคาท์ทางการของ เลสเตอร์ ที่สำคัญในวันอาทิตย์ที่ 4 มีนาคม แข้งวัย 27 ปี เพิ่งพิมพ์ข้อความลง ทวิตเตอร์ ว่า “ไม่มีวันยอมแพ้”

ทำให้หลายๆ คนรวมถึงแฟนบอลจำนวนมากเชื่อว่า เหตุการณ์สุดช็อคในครั้งนี้เกิดจากที่ แอคเคาท์ เฟซบุ๊กของ มาร์เรซ โดนแฮ็ก หรือมีใครกลั่นแกล้งเขา และจนถึงตอนนี้ทางตัวนักเตะและทางต้นสังกัดเองก็ไม่มีการออกมาให้ข่าวเพิ่มเติมแต่อย่างใด รวมถึงข้อความดังกล่าวยังคงไม่ถูกลบ

สหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ประกาศอย่างเป็นทางการ สั่งแบน ซามีร์ นาสรี่ มิดฟิลด์ร่างเล็ก 6 เดือน ส่งผลให้นักเตะจะไม่สามารถลงเล่นที่ไหนได้เลยเป็นเวลา 6 เดือน จากโทษฐานที่ตัวนักเตะใช้วิธีรักษาอาการบาดเจ็บแบบผิดกฎ ในขณะเดียวกันดาวเตะชาวฝรั่งเศสก็มีสิทธิ์อุทธรณ์โทษแบนได้เช่นกัน

สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (UEFA) ยืนยันแล้วว่า ซามีร์ นาสรี่ กองกลางไร้ต้นสังกัด โดนลงโทษแบนยาวนานถึง 6 เดือน โทษฐานจากการละเมิดต่อกฎในการใช้สารกระตุ้น หลังจากที่ทางด้านนักเตะได้ใช้สารกระตุ้นในการรักษาอาการบาดเจ็บของตนเองสูงมากกว่าที่กำหนดเอาไว้

เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดในช่วงเดือนธันวาคม ปี 2016 ช่วงที่ นาสรี่ ต้องย้ายต้นสังกัดจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปลงเล่นให้กับ เซบีย่า ด้วยสัญญายืมตัว อดีตดาวเตะชาวฝรั่งเศสเกิดมีอาการป่วยอย่างรุนแรง ถึงขั้นอาเจียนออกมา เขาจึงทำการติดต่อไปยังอดีตแฟนสาวที่เป็นแพทย์เพื่อมาตรวจสอบอาการบาดเจ็บของตน ก่อนที่จะให้ จามิล่า โซซาห์ดาห์ ผู้ร่วมก่อตั้งคลินิก ดริป ด็อก เตอร์ส บริษัทรักษาด้วยการหยอดยาเข้าหลอดเลือด มาดูแลอาการบาดเจ็บของเขา

ทั้งนี้ โซซาห์ดาห์ ได้รับการรักษาดาวเตะวัย 30 ปี ด้วยการหยดน้ำที่มีส่วนประกอบของอาหารเข้าร่างกายเป็นจำนวน 500 มิลลิลิตร เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2016 เป็นสาเหตุที่ทำให้องค์กรต่อต้านการใช้สารกระตุ้น (วาด้า) เข้ามาตรวจสอบ เนื่องจากตามกฎระบุเอาไว้ว่านักกีฬาที่มีการแข่งขันอยู่ สามารถรับสารเข้าสู่ร่างกายได้ไม่เกิน 50 มิลลิลิตรต่อ 6 ชั่วโมง

ก่อนหน้านี้ทางสโมสร เซบีย่า เองก็เคยยื่นเรื่องร้องเรียนต่อทาง ยูฟ่า ว่าให้กรณีของ นาสรี่ เป็นข้อยกเว้น แต่สุดท้ายแล้วทาง สมาคมฟุตบอลยุโรป ปฏิเสธคำร้องดังกล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 รวมถึงศาลอนุญาโตตุลาการกีฬาโลก หรือ ซีเอเอส ได้มีการตัดสินไปในทิศทางเดียวกันกับทาง ยูฟ่า

นอกจากนี้ทางทนายประจำตัวของนักเตะเองอย่าง ฆวน เด ดิอาส เครสโป เปเรซ ได้เผยว่าแม้ลุกความของตนจะถูกตัดสินให้โดนลงโทษ 6 เดือนจริง แต่ทาง ยูฟ่า เอง ก็ยืนยันว่าสามารถขออุทธรณ์โทษนี้ได้

“ซามีร์ ถูกพบว่ามีความผิดฐานใช้วิธีรักษาที่ผิดกฎตามที่ระบุจริง ในวรรค M2 ข้อ 2 ลิสต์ต้องห้ามของ วาด้า ส่งผลให้ ซีอีดีบี ตัดสินใจลงโทษแบน นาสรี่ เป็นเวลาถึง 6 เดือน จากการละเมิดกฎการใช้สารกระตุ้น การตัดสินมีขึ้นเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ และเขามีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์ได้” ตามแถลงการณ์ของ ยูฟ่า